ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
ฟ้ายังดูสดใส
Freefall is one of the most exciting, adrenaline-filled experiences you're likely to ever have. The feeling is different for everyone, so check out the testimonials from people just like you, with one exceptionthey've fallen towards the earth at 120 miles per hour!

Thursday, August 25, 2011

การโดดร่มแบบ Tandem (Tandem Jump)

ที่มา: การโดดร่มแบบ Tandem Jump And Accelerated Free Fall (AFF)
ขอขอบคุณ พ.ต.อ.ไวทยวัฒน์ บุญชูวิทย์ ผกก.ฝอ.บก.สอ.บช.ตชด.

sky4000

กล่าวทั่วไป

ในปัจจุบันนี้การโดดร่มแบบกระตุกเองมีการพัฒนา และมีการโดดกันอย่างแพร่หลายทั้งด้านการทหารและด้านการฝึกของพลเรือน ความรู้สึกที่เห็นว่าการโดดร่มแบบกระตุกเองเป็นเรื่องที่น่ากลัว และเป็นอันตรายนั้น ค่อย ๆ หายออกไปจากความคิดของคนทั่วไป แต่มีความรู้สึกที่อยากจะเข้ามามีส่วนร่วมมีมากขึ้น เพราะว่าปัจจุบันได้มีร่มและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับความปลอดภัยที่เชื่อถือได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ รวมถึงระบบการฝึกและความสามารถของครูฝึกที่เชื่อถือได้เช่นกัน ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การที่บุคคลทั่วไปได้เห็นการโดดต่าง ๆ ด้วยรูปภาพนิ่งและภาพที่บันทึกจากกล้องวีดีโอ ก็เป็นสื่อที่รบเร้าจิตใจเป็นอย่างมาก ระบบที่ใช้ในการฝึกโดดร่มแบบกระตุกเองที่ทำให้บุคคลทั่วไป สามารถที่เข้าร่วมฝึกทำการโดดได้โดยไม่ต้องเสียเวลามากนักนั่นก็คือ ระบบ Tandem Jumping และการฝึก AFF (Accelerated Free Fall) นั่นเอง

Tandem Jumping

Tandem Jumping เป็นการโดดร่มแบบกระตุกเอง ด้วยร่มเหลี่ยมขนาดใหญ่แบบหนึ่ง ซึ่งสามารถโดดได้โดยคน 2 คน ต่อร่ม ร่มเดียวคนโดดหลักคือ ครูฝึก หรือ Tandem Master อีกคนหนึ่งคือนักเรียน หรือผู้โดยสาร (Passenger) ในสมัยนี้เป็นที่นิยมกันมากตามศูนย์ฝึกโดดร่มพลเรือนหรือตามสมาคมโดดร่มต่าง ๆ ที่ถือว่าการโดดร่มเป็นการกีฬา และดำเนินกิจการโดดร่มเป็นเรื่องของธุรกิจการค้า เป็นเรื่องที่เหมาะสำหรับบุคคลที่ต้องการโดดร่มโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาในการฝึก คือ ต้องการโดดเพื่อประสบการณ์หรือได้ทดลองเท่านั้น ไม่มีจุดประสงค์ที่จะทำการโดดต่อไป ส่วนมากเมื่อโดดแล้วก็จะไม่ต้องการจะโดดอีกเป็นครั้งที่สอง ส่วนการโดดอีกลักษณะหนึ่งของ Tandem Jumping ก็คือ เป็นการเตรียมตัวที่จะฝึกโดดแบบกระตุกเองต่อไปในระบบ AFF กล่าวคือนักเรียนจะทำการโดด Tandem Jumpingกับครูฝึกก่อนประมาณ 3-5 ครั้ง เพื่อเรียนรู้ถึงการปฏิบัติตัวกลางอากาศและทำตัวเองให้เกิดความคุ้นเคยกับการ Free Fall โดยมีครูฝึกควบคุมและตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา ว่าสามารถจะทำการโดดในขั้นต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งทุกครั้งที่ทำการโดด Tandem จะโดดในระยะสูง 10,000 ฟุต และมีเวลาช่วงที่ Free Fall ประมาณ 30 วินาที

pete_plane_on_hd_01

Tandem Jumping ไม่ใช่เรื่องใหม่ กล่าวคือ ประมาณไม่ต่ำกว่า 15-20 ปีที่แล้ว William R.Booth และเพื่อนได้เคยลองโดดกันมาแล้วด้วยร่มทิ้งของแบบเก่า (44 Foot Cargo Chute) ซึ่งถึงแม่ว่าทั้งสองคนเป็นนักโดดที่มีประสบการณ์แล้วก็ตามแต่ก็ทำให้เกือบตายเหมือนกัน และนอกจากนั้นก็เคยมีการโดดโดยนักโดดรัสเซียมาก่อนในการโดดสาธิตในระหว่างการแข่งขันโดดร่มชิงแชมป์เปี้ยนโลกในสมัยเก่า ๆ นอกจากนั้นก็มีการโดดโดยสาย Static Line ทางทหารด้วยการนำเอาสุนัขสงครามลงมาด้วยของทหารอเมริกัน

แต่ว่าการโดด Tandem สมัยใหม่นั้นเริ่มขึ้น เมื่อ ปี พ.ศ.2520 ที่ Deland รัฐ Florida ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นมาก็มีการพัฒนาร่มและอุปกรณ์ของ Tandem Jumping มาจนถึงปัจจุบันนี้

skydive-exit-7671

Tandem Jumping นั้นนอกจากการใช้ประโยชน์ดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างมากในด้านการทหาร คือสามารถจะใช้ระบบ Tandem นี้ทำการแทรกซึมทางอากาศโดยการพาบุคคลสำคัญ (Specialist) เข้าไปยังพื้นที่ ๆ ไม่สามารถจะเข้าไปได้ด้วยวิธีอื่นใด เพื่อเข้าไปปฏิบัติภารกิจทางด้านการทหารอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งกรณีนี้เป็นกรณีที่บุคคลสำคัญดังกล่าวไม่สามารถโดดร่มด้วยตนเองและก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปเสียเวลา, เสียงบประมาณ, เสี่ยงชีวิต เข้าไปทำการฝึกโดดด้วยตนเองด้วย

ในปัจจุบันการพัฒนาของร่ม Tandem ได้มีการออกแบบให้มีขนาดความใหญ่ถึง 3 ขนาด คือ ขนาด 360 ตารางฟุต , 421 ตารางฟุต และ 520 ตารางฟุต ซึ่งผู้ที่เป็น Tandem Master จะสามารถเลือกใช้ได้ตามแต่ภารกิจ ซึ่งส่วนมากจะขึ้นอยู่กับตัว Tandem Master เอง ว่ามีน้ำหนักเท่าใด และผู้ที่จะโดยสารไปด้วยนั้นมีน้ำหนักเท่าใดนั่นเอง สำหรับในระบบของทางทหารแล้วจำเป็นจะต้องใช้ร่ม Tandem ขนาด 520 ตารางฟุต ซึ่งเป็นร่มแบบเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่สุด เพื่อการบรรทุกสิ่งอุปกรณ์ทางยุทธวิธีเป็นสำคัญ

Wednesday, August 24, 2011

หลักฟิสิกส์กับการโดดร่ม


luckynickel3

เพื่อน ๆ หลายคนถามผมว่า  รู้สึกอย่างไรตอนโดดออกจากเครื่องบิน ?  เสียวมั้ย ? น่ากลัวมั้ย..?  ตอบได้เลยว่า  เสียวครับ….  แต่การฝึกทำให้นักโดดร่มมั่นใจ และกล้าโดด  เวลาที่เสียวที่สุดและน่ากลัวที่สุดสำหรับนักโดดร่มมือใหม่หัดขับอย่างผม ก็คือ  ขณะอยู่บนอากาศยานช่วงก่อนโดดออกจากอากาศยาน  ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกระทึกใจกระวนกระวายใจมากที่สุด   เมื่อนักดิ่งพสุธาพุ่งทะยานออกจากอากาศยานไปแล้ว  ความเครียด ความกลัวจะมลายหายไปจนหมดสิ้น ที่เหลือคือ  ชีวิตของตัวเองที่ฝากไว้กับร่มชูชีพที่อยู่บนหลัง

เมื่อนักดิ่งพสุธาโดดออกจากอากาศยานบนความสูงในแนวระดับ เสี้ยววินาทีแรกของนักดิ่งพสุธาจะไม่มีความเร็วเริ่มต้นในแนวดิ่ง   ณ จุดเริ่มต้นมีเพียงแรงเดียวที่มากระทำกับนักดิ่งพสุธา คือ น้ำหนักตัวเท่านั้นเอง

แรงโน้มถ่วงทำให้มีแรงพุ่งลง กลายเป็นความไม่สมดุลย์ หรือแรงลัพธ์ เกิดความเร่ง ขณะที่ร่างของนักดิ่งพสุธาเคลื่อนที่เร็วขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อย ๆ  แรงเสียดทาน (ความต้านทานของอากาศหรือแรงต้าน) จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ แรงฉุดที่เกิดขึ้นมีทิศพุ่งขึ้นสวนกับน้ำหนักที่พุ่งลง ซึ่งจะช่วยลดความเร่งพุ่งลงของนักดิ่งพสุธา  ทำให้ความเร็วลดลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดแรงฉุดจะเท่ากับน้ำหนัก ทำให้แรงสุทธิเป็นศูนย์ การพุ่งลงของนักดิ่งพสุธาจะไม่มีความเร่งอีกต่อไป   ความเร็วตอนนี้ เป็นความเร็วคงที่เรียกว่า "ความเร็วขั้นสุดท้าย" (Terminal velocity)”  (คุ้น ๆ กับชื่อภาพยนต์เกี่ยวกับการโดดร่มดิ่งพสุธาเรื่อง Terminal velocity เมื่อหลายปีก่อนแล้วใช่มั้ยครับ..)

แต่เมื่อนักดิ่งพสุธาเปิดให้ร่มกางออก ร่มจะช่วยเพิ่มแรงฉุด  แรงสุทธิมีทิศพุ่งขึ้นสวนทางกับการเคลื่อนที่ลงทำให้ความเร็วลดลงเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว เมื่อความเร็วลดลง แรงฉุดก็ลดลงด้วยจนกระทั่งมีค่าเท่ากับแรงโน้มถ่วง นักดิ่งพสุธาจะมาถึงความเร็วขั้นสุดท้ายใหม่ ซึ่งน้อยกว่าตอนที่ยังไม่เปิดร่ม ทำให้ลงพื้นได้อย่างปลอดภัยและนิ่มนวล

ความเชื่อที่ว่า เมื่อร่มกางออก นักดิ่งพสุธาจะลอยขึ้นนั้นไม่เป็นความจริง  เมื่อเราเห็นในวิดีโอเหมือนกับกำลังลอยขึ้นนั้น แต่ที่จริงแล้วมันกำลังเคลื่อนที่ลง เพราะว่าคนถ่ายวิดีโอที่โดดลงมาพร้อมนักดิ่งพสุธา ขณะที่ร่มกางการเคลื่อนที่จะช้าลง คนถ่ายที่ร่มยังไม่กางจึงตกลงด้วยความเร็วสูงกว่า เมื่อถ่ายวิดีโอออกมาจึงดูเหมือนว่า นักดิ่งพสุธากำลังลอยขึ้น

Tuesday, August 23, 2011

Felix Baumgartner ประกาศโดดร่มที่ความสูง 120,000 ฟุต, อาจทำความเร็วเหนือเสียงได้


Felix Baumgartner เป็นอดีตทหารและสตันท์แมนที่โด่งดังขึ้นมาจากการไปกระโดดร่มตามจุดต่างๆ ของโลกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นตึกปีโตรนาส, ไทเป 101 รวมถึงการบินผ่านช่องแคบอังกฤษ (ดูวีดีโอหลัง break)

มาวันนี้เขาประกาศอีกครั้งที่จะกระโดดจากบอลลูนที่ความสูงถึง 120,000 ฟุต (หมายเหตุ 36.576 กม.) ซึ่งจะทำให้เขามีเวลาปล่อยตกอิสระมากกว่า 5 นาที และอาจจะทำความเร็วสุดท้ายเกินความเร็วเสียง ซึ่งจะทำให้เขาเป็นคนแรกที่ทะลุความเร็วเสียงโดยไม่ใช้แรงขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ ที่น่าสนใจคือแม้แต่สถิติบอลลูนที่ขึ้นไปได้สูงที่สุดนั้นก็ยังอยู่ที่ระดับ 114,000 ฟุตเท่านั้น นั่นคือถ้างานนี้สำเร็จเราจะได้สถิติโลกใหม่พร้อมกันสองอย่าง

ว่าแต่ตอนแกบินข้ามช่องแคบอังกฤษนี่ กระทิงแดงเป็นสปอนเซอร์ให้ ไม่รู้งานนี้จะมีสปอนเซอร์อีกไหม

ที่มา: http://jusci.net/node/1103

ขับมอเตอร์ไซค์ดิ่งพสุธาจากผาสูง 1,000 เมตร


ในเดือนพฤษภาคม ปี 2011 Julio Muñoz ทหารพลร่มชิลี ได้แสดงกิจกรรมท้าทายมฤตยู ในการโดดร่มดิ่งพสุธา (BASE jumping) ด้วยการขับรถมอเตอร์ไซค์ขนาด 450 ซีซี  พุ่งทะยานลงจากหน้าผ้าสูง 1,000 เมตร ในช่วงกลางของเทือกเขาแอนดีส (the Rabona Sector, El Plomo, Chile) ประเทศชิลี ก่อนที่จะผละออกจากมอเตอร์ไซค์ แล้วโดดร่มลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย

Julio Muñoz วางแผนการโชว์นี้มานานถึง 3 ปี และลงทุนไป 60,000 ยูโร  “ผมรู้เพียงอย่างเดียว ว่าจะต้องขับขี่มอเตอร์ไซค์ให้เร็วที่สุดเพื่อขึ้นแลมป์” “และเมื่อคุณและรถหลุดออกจากกันนั้นแหละ คือ ความรู้สึกที่หาค่าไม่ได้” Julio Muñoz กล่าวทิ้งท้าย

การโดดร่มบอกอะไรคุณ

เครดิต by http://www.saranair.com/5540

Skydiving_7000_ft_Above

แบบทดสอบที่คุณกำลังจะเล่นต่อไปนี้ สามารถทดสอบบางเรื่องที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนเลย ดังนั้น จงซื่อสัตย์กับจนเองขณะเล่นเกม โดยตอบความคิดแรกที่ปรากฎขึ้นมาในใจคุณเหลังจากที่อ่านโจทย์เสร็จแล้วทันที เริ่มกันเลย..

1. หลับตาแล้วจินตนาการว่าคุณกำลังอยู่บนเครื่องบินลำใหญ่ คุณกำลังมองคนอื่นๆกระโดดลงไปบนพื้นด้านล่างอย่างอิสระ ขณะที่อยู่ระหว่างกำลังรอคิวให้มาถึงตนเองนั้น คุณคิดอะไรอยู่?

2. ถึงตาคุณแล้ว! ครูฝึกพาคุณมาที่ประตู จากนั้น คุณพุ่งตัวออกไปในอากาศเบื้องหน้า ลมแรงพุ่งมาปะทะหน้าขณะที่คุณดิ่งตัวลงมาจากความสูงกว่าหมื่นฟุต คุณร้องว่าอย่างไร ขณะกำลังดิ่งลงสู่พื้นเบื้องล่าง?

3. คุณลงมาถึงพื้นดินอย่างปลอดภัย ในขณะที่คุณกำลังเก็บร่มชูชีพของคุณอยู่ ครูฝึกก็กำลังเดินตรงมาที่คุณพร้อมกับส่งเสียงเรียกคุณ ครูฝึกพูดอะไรกับคุณ? และคุณตอบอะไร?

เอาล่ะ ตอบเสร็จแล้วมาอ่านเฉลยกัน 1. อารมณ์ที่คุณกำลังรู้สึกขณะที่รอคิวอยู่นั้น เป็นสิ่งที่วัดระดับความปรารถนาในเรื่อง sex เช่น คุณอาจจะพูดว่า “มันต้องสนุกแน่เลย ฉันแทบจะรอไม่ไหวแล้ว”

2. คำพูดที่คุณตะโกนออกมานั้น หมายถึงสิ่งที่คุณจะพูดเมื่ออารมณ์ของคุณถึงจุดสุดยอด คุณพูดว่า “โอว์! แม่จ๋า” รึเปล่า

3. คำพูดที่ครูฝึกพูดกับคุณคือสิ่งที่คุณคิดว่าคู่ของคุณจะพูดหลังการร่วมรัก !! และคำพูดที่คุณพูดกับครูฝึกหมายถึงสิ่งที่คุณพูดกับคู่รักของคุณนั่นเอง