เพื่อน ๆ หลายคนถามผมว่า รู้สึกอย่างไรตอนโดดออกจากเครื่องบิน ? เสียวมั้ย ? น่ากลัวมั้ย..? ตอบได้เลยว่า เสียวครับ…. แต่การฝึกทำให้นักโดดร่มมั่นใจ และกล้าโดด เวลาที่เสียวที่สุดและน่ากลัวที่สุดสำหรับนักโดดร่มมือใหม่หัดขับอย่างผม ก็คือ ขณะอยู่บนอากาศยานช่วงก่อนโดดออกจากอากาศยาน ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกระทึกใจกระวนกระวายใจมากที่สุด เมื่อนักดิ่งพสุธาพุ่งทะยานออกจากอากาศยานไปแล้ว ความเครียด ความกลัวจะมลายหายไปจนหมดสิ้น ที่เหลือคือ ชีวิตของตัวเองที่ฝากไว้กับร่มชูชีพที่อยู่บนหลัง
เมื่อนักดิ่งพสุธาโดดออกจากอากาศยานบนความสูงในแนวระดับ เสี้ยววินาทีแรกของนักดิ่งพสุธาจะไม่มีความเร็วเริ่มต้นในแนวดิ่ง ณ จุดเริ่มต้นมีเพียงแรงเดียวที่มากระทำกับนักดิ่งพสุธา คือ น้ำหนักตัวเท่านั้นเอง
แรงโน้มถ่วงทำให้มีแรงพุ่งลง กลายเป็นความไม่สมดุลย์ หรือแรงลัพธ์ เกิดความเร่ง ขณะที่ร่างของนักดิ่งพสุธาเคลื่อนที่เร็วขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อย ๆ แรงเสียดทาน (ความต้านทานของอากาศหรือแรงต้าน) จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ แรงฉุดที่เกิดขึ้นมีทิศพุ่งขึ้นสวนกับน้ำหนักที่พุ่งลง ซึ่งจะช่วยลดความเร่งพุ่งลงของนักดิ่งพสุธา ทำให้ความเร็วลดลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดแรงฉุดจะเท่ากับน้ำหนัก ทำให้แรงสุทธิเป็นศูนย์ การพุ่งลงของนักดิ่งพสุธาจะไม่มีความเร่งอีกต่อไป ความเร็วตอนนี้ เป็นความเร็วคงที่เรียกว่า "ความเร็วขั้นสุดท้าย" (Terminal velocity)” (คุ้น ๆ กับชื่อภาพยนต์เกี่ยวกับการโดดร่มดิ่งพสุธาเรื่อง Terminal velocity เมื่อหลายปีก่อนแล้วใช่มั้ยครับ..)
แต่เมื่อนักดิ่งพสุธาเปิดให้ร่มกางออก ร่มจะช่วยเพิ่มแรงฉุด แรงสุทธิมีทิศพุ่งขึ้นสวนทางกับการเคลื่อนที่ลงทำให้ความเร็วลดลงเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว เมื่อความเร็วลดลง แรงฉุดก็ลดลงด้วยจนกระทั่งมีค่าเท่ากับแรงโน้มถ่วง นักดิ่งพสุธาจะมาถึงความเร็วขั้นสุดท้ายใหม่ ซึ่งน้อยกว่าตอนที่ยังไม่เปิดร่ม ทำให้ลงพื้นได้อย่างปลอดภัยและนิ่มนวล
ความเชื่อที่ว่า เมื่อร่มกางออก นักดิ่งพสุธาจะลอยขึ้นนั้นไม่เป็นความจริง เมื่อเราเห็นในวิดีโอเหมือนกับกำลังลอยขึ้นนั้น แต่ที่จริงแล้วมันกำลังเคลื่อนที่ลง เพราะว่าคนถ่ายวิดีโอที่โดดลงมาพร้อมนักดิ่งพสุธา ขณะที่ร่มกางการเคลื่อนที่จะช้าลง คนถ่ายที่ร่มยังไม่กางจึงตกลงด้วยความเร็วสูงกว่า เมื่อถ่ายวิดีโอออกมาจึงดูเหมือนว่า นักดิ่งพสุธากำลังลอยขึ้น
No comments:
Post a Comment