ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
ฟ้ายังดูสดใส
Freefall is one of the most exciting, adrenaline-filled experiences you're likely to ever have. The feeling is different for everyone, so check out the testimonials from people just like you, with one exceptionthey've fallen towards the earth at 120 miles per hour!

Wednesday, September 22, 2010

ครั้งแรกกับการโดดเฮลิคอปเตอร์

a20_58684621

หลังจากฝึกสำเร็จหลักสูตร “การโดดร่มแบบกระตุกเอง” จาก บก.สอ.บช.ตชด.หรือ “ตำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวร” รับประกาศนียบัตร ไปเมื่อ 9 ส.ค. 2553 แล้ว  ผมคิดว่าคงมีโอกาสริบหรี่ที่จะได้มีโอกาสโดดร่มดิ่งพสุธาท้าทายความกล้าและความสูงอีก 

แต่แล้วโอกาสอันริบหรี่ที่ว่านั้นก็วิ่งกระโจนเข้ามาหาผมอย่างไม่คาดฝัน  เมื่อ “น้าบัง” น้าชายผมซึ่งเป็นทหารรบพิเศษ และเป็นนักกีฬาโดดร่มแบบกระตุกเอง หรือดิ่งพสุธา ของกองทัพบก ทราบข่าวว่า ผมเพิ่งฝึกสำเร็จหลักสูตร จึงโทรมาชวนไปโดดร่มดิ่งพสุธาร่วมกับพี่ ๆ น้อง ๆ ทหาร  ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งมักจะมีฝึกซ้อมโดดร่มฯ กันที่นี่เป็นประจำ และในวันที่ 19 ก.ย. 2553 จะมีการฝึกซ้อมโดดร่มฯ กันอีก เพื่อไปโดดโชว์เชื่อมความสัมพันธ์กับชาวบ้านในพิธีเปิดงานแข่งขันกีฬาตำบลที่ ร.ร.บ้านมะหุด ต.ประโด อ.มายอ จ.ปัตตานี ด้วยอารามดีใจ ผมรีบตอบตกลงน้าบังไปทันทีโดยไม่ชักช้า


19 ก.ย. 2553  (แห้วรับประทาน)

ราว ๆ 9 โมงเช้า ผมขับรถไปที่ค่ายอิงคยุทธบริหารตามลำพัง (โทรชวนเพื่อน กับน้อง ๆ คนอื่น ๆ แล้ว ไม่มีใครว่าง) ไปถึงสนามโดด  ดีใจมากได้พบ “พี่หน่อย” กับ “พี่แจ็ค”  นายทหาร จปร. เป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นพี่ผม 1 ปี  แต่เรียนเสธ ทบ.รุ่นเดียวกัน  ทักทายกันเล็กน้อยตามประสาพี่น้อง  “น้าบัง” เตรียมร่มสำหรับโดดมาให้ผมเรียบร้อยแล้ว  ผมจะได้โดดในเที่ยวบินที่ 2 

หลังจากนำร่มมาแต่งตัวเสร็จก็เกิดความรู้สึกตื่นเต้น ประหม่ากล้า ๆ กลัว ๆ ขึ้นมาอย่างกระทันหัน แต่จะให้หันหลังกลับ เปลี่ยนใจไม่โดดตอนนี้ก็คงไม่ได้แล้ว (เดี๋ยวจะเสียชื่อไปถึงครูบาอาจารย์ที่ค่ายนเรศวรหมด) ในที่สุดผมก็ขึ้นโดดเที่ยวบินที่ 2 

IMG_7938
ผมกับ “น้าบัง”

เมื่อเฮลิคอปเตอร์ไต่ความสูงขึ้นไปจนถึงระดับ 8,000 ฟิต สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่ลดลงจนรู้สึกเย็นยะเยือก ขณะที่ผมกำลังจะเตรียมตัวโดด   อนิจจา !!  ฝาปิดร่มบนหลังผมดันไปเกี่ยวเข้ากับผนังของเฮลิคอปเตอร์ ทำให้สลักร่มหลุุด แพ็คร่มแตกกระเด็นออกมา  นักโดดคนอื่นโดดลงไปจนหมด เหลือผมคนเดียว ด้วยความกลัวว่าร่มจะปลิวหลุดออกไปนอกเครื่องผมเลยนั่งทับแพ็คร่มเอาไว้ เมื่อเฮลิคอปเตอร์ร่อนลงถึงพื้น ผมต้องเดินลงจากเฮลิคอปเตอร์ด้วยความอดสูและเซ็งสุดขีด   

“น้าบัง” ปลอบใจผมด้วยการจัดเที่ยวบินใหม่ให้ผมขึ้นโดดอีกในเที่ยวบินที่ 5 แต่ปรากฎว่า พอเที่ยวบินที่ 4 โดดเสร็จ  นักบินลงมาแจ้งนักโดดฯ ว่า  “น้ำมันหมด”  ผมก็…อิอิ.. ^^  แห้วรับประทาน

IMG_7946
หน.หวัง (ตท.27) กำลังสรุปผลหลังการฝึกซ้อมโดดร่มในวันนี้
 

แต่โอกาสของผมยังไม่หมดเสียทีเดียว  เพราะพรุ่งนี้จะมีการโดดร่มฯ โชว์ชาวบ้านในพิธีเปิดงานแข่งขันกีฬาตำบลที่ ร.ร.บ้านมะหุด ต.ประโด อ.มายอ จ.ปัตตานี  (ผมยังลังเลใจว่าจะไปร่วมโดดฯ ดีหรือไม่)

20 ก.ย. 2553 (ครั้งแรกกับการโดดเฮลิคอปเตอร์)

เมื่อวานเกิดอาการเซ็งสุดขีดหลังจากที่ขึ้นเครื่องแล้วแต่ไม่ได้โดด วันนี้ตอนแรกกะจะไม่มาแล้ว เพราะประหม่าที่จะโดดร่มฯ ต่อหน้าคนจำนวนมาก  กลัวจะผิดพลาดท่ามกลางสายตาประชาชี แต่เมื่อวานผมดันลืมกระเป๋ากล้องถ่ายรูปไว้ทีศาลาข้างสนามโดดฯ  พี่หน่อยกรุณาเก็บไว้ให้เพราะจำได้ว่าผมใช้กระเป๋ากล้องใบนี้ตั้งแต่เป็นนักเรียนเสธ ทบ. วันนี้ก็เลยกะว่าจะมารับกระเป่ากล้องถ่ายรูปคืน   แต่ว่า ไหน ๆ ก็มาแล้วเลยชวน “เจ้าเหม่ง” นรต.61 รุ่นน้องผม แต่เรียนหลักสูตรการโดดร่มแบบกระตุกเองรุ่นเดียวกัน มาเป็นเพื่อนด้วย (เผื่อใจเล็ก ๆ ว่าจะได้โดดฯ)

บ่ายของวันที่ 21 ก.ย. 2553  ผมขับรถไป ร.ร.บ้านมะหุด ต.ประโด อ.มายอ จ.ปัตตานี  กับ “เจ้าเหม่ง” ไปถึง ร.ร.บ้านมะหุด ก็พบกับเด็ก ๆ และชาวบ้านมาร่วมงานหลายร้อยคนวันนี้ “น้าบัง” เตรียมร่มมาให้ผมเหมือนเดิม แถมเตรียมร่มมาให้ “เจ้าเหม่ง” อีก 1 ร่มด้วย 
ผมกับเจ้าเหม่งจะได้โดดเที่ยวบินที่ 3 เที่ยวเดียวกับน้าบัง

เมือถึงเวลา นักโดดฯ เที่ยวบินแรก นั่งโดยสารมาพร้อมเฮลิคอปเตอร์จากค่ายอิงคยุทธบริหาร มาโดดลงที่สนามโดดฯ ที่ความสูง 8,000 ฟิต จากนั้น เฮลิคอปเตอร์ก็ร่อนลงมาจอดที่สนามโดดรับนักโดดฯ เที่ยวบินที่ 2 ขึ้นไปโดด

IMG_7985 
นี่แหละครับ เฮลิคอปเตอร์แบบฮิวอี้ลำนี้ ที่นำผมขึ้นไปโดดดิ่งฯ ลงมา

เมื่อถึงคิวเที่ยวบินที่ 3 นักโดดฯ เดินขึ้นเครื่องฯ ที่เพิ่งร่อนลงมา เที่ยวบินนี้มีนักโดดฯ 8 คน  ผมจะโดดลงเป็นคนที่ 7 ส่วนเจ้าเหม่งโดดคนสุดท้าย  เมื่อนักบินนำเครื่องบินขึ้น อารมณ์ความรู้สึกแบบเดียวกันกับเมื่อวานก็แว่บเข้ามารบกวนจิตใจผมอีกแล้ว  หัวใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ ตึ้ก ๆ ตั้ก ๆ มองลงไปที่พื้นข้างล่างหลังคาบ้านเล็กลงเรื่อย ๆ รู้สึกเสียววูบวาบแต่ก็พยายามข่มความรู้สึกเอาไว้

IMG_7996
นักโดดที่โดดร่วมกันในเที่ยวบินที่ 3

เมื่อเฮลิคอปเตอร์ไต่ความสูงขึ้นไปจนถึงระดับ 5,000 ฟิต (ตั้งใจไว้ที่ 8,000 ฟิต) อากาศเย็นลงเรื่อย ๆ นักบินบอกว่า ความสูงพอแล้ว  นักโดดฯ กลุ่มแรกจึงจำต้องเกาะหมู่โดดลงไป 6 คน 

ผมเว้นช่วงจากนักโดดคนก่อนหน้าผมประมาณ 2 – 3 วินาที แล้วก็ตัดสินใจโดดพุ่งทะยานตามออกไปทางประตูขวา ร่างลอยละลิ่วปลิวละล่องลอยไปตามแรงเฉื่อยของความเร็วเฮลิคอปเตอร์ เคว้งคว้างอยู่กลางอากาศ ผมพยายามทรงตัวอยู่ในท่า “frog” ได้อย่างมั่นคง   ในช่วง 3 – 5 วินาทีแรกที่โดดออกจาก ฮ. ร่างของผมดิ่งลงมาอย่างว่างเปล่า เหมือนไม่มีอากาศรองรับ รู้่สึกเสียววาบไปทั้งตัวเหมือนจะขาดใจ แต่หลังจากนั้นเริ่มมีลมมาปะทะกับลำตัวมากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ จนรู้สึกได้ถึงความหนาแน่นของมวลอากาศที่รองรับอยู่บริเวณด้านล่างของร่างกาย รู้สึกได้ถึงความเร็วของการตกที่มีอัตราเร่งเพิ่มขึ้น  รู้สึกได้ถึงอะดรีนาลินที่แผ่ซ่านออกมาจนขนลุกซู่

“สวรรค์อยู่แค่เอื้อมจริง ๆ”

ผมเหลือบมองไปที่ “Altimeter” (เครื่องวัดความสูง) ที่ข้อมือซ้ายบ่อย ๆ เพราะรู้สึกระแวงว่าใกล้จะถึงพื้นดิน  เมื่อดิ่งตกลงมาถึงความสูงประมาณ 3,500 ฟิต  ผมตัดสินใจเอื้อมมือขวาไปจับ “throw away” ที่บริเวณตะโพกด้านขวาเพื่อเปิดร่ม  พร้อมกับลดมือซ้ายลงมากันที่หน้าผาก ผมดึง “throw away” ออกมาโปรยทิ้งไป แล้วกลับไปอยู่ท่า frog เหมือนเดิม พอ “throw away” รับลม เป็นร่มนำดึงร่มหลักกางเต็มที่  ทิวทัศน์อันตระการตาจากมุมสูงก็ปรากฎแก่สายตาต่อมาผมจึงบังคับร่มลงสนามโดดด้วยความปลอดภัย  

ในที่สุดตอนนี้ ผมก็รู้แล้ว ว่าการโดดเฮลิคอปเตอร์ให้ความรู้สึกอย่างไร…

1 comment:

  1. สุดยอดครับไม่เสียชื่อครูฝึกร้อย สกอ.ครับ

    ReplyDelete